วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ประวัติของอัครสาวกทั้ง 12 คน

นักบุญมัทธิว

หรือ ที่เรียกกันว่า "เลวี" ในพระวรสารของนักบุญมาระโก และลูกา มีอาชีพเก็บภาษีให้กรุงโรม ที่เมืองคาเบอร์นาอุม ทั้งคงมีพื้นเพทางวัฒนธรรมกรีก แต่ชื่อเก่าเป็นภาษาฮีบรู ชื่อของท่านมัทธิวนั้นหมายถึง "คนของพระเจ้า" ในพระวรสารเขียนถึงว่า "วันหนึ่งขณะที่ท่านนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พระเยซูเจ้าเสด็จมาและชักชวนท่านว่า จงตามเรามาเถิด ทันใดนั้นท่านก็ได้ทิ้งงานและตามพระองค์ไป"
                และหน้าที่สำคัญของท่านอีกอย่างหนึ่ง คือการถ่ายทอดข่าวดี หรือพระวรสาร หลังจากการเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าแล้ว ท่านได้นิพนธ์ พระวรสาร เพื่อชักชวนให้ชาวยิวเชื่อมั่นว่า พระเยซูเจ้า คือพระเมสสิยาห์ พระผู้ไถ่ที่ทรงเป็นพระเจ้าและมนุษย์แท้ ท่านได้เผยแพร่พระวรสารแก่ชาวยิวเป็นเวลานานถึง 15 ปี จนได้รับสมญานามว่า "อัครสาวกแห่งเอธิโอเปีย" ในภาพจะเห็นว่า ท่านยืนอยู่บนถุงเงิน แต่ท่านกำลังอ่านพระคำภีร์อยู่ หมายถึงว่าท่านเลิกอาชีพเก็บภาษี มาเป็นสาวก และเป็นผู้นิพนธ์พระวรสารฉบับหนึ่ง.



นักบุญแอนดรูว์

มี ชื่อมาจากภาษกรีก หมายความว่า " สมเป็นชายชาติบุรุษ" ดูเหมือนท่านเป็นคนใจกว้าง มีความพร้อมเสมอ เปิดเผยและกระตือรือร้น ท่านเป็นน้องชายของนักบุญเปโตร และเป็นลูกศิษย์ของนักบุญยอห์น บัปติสต์ วันหนึ่งขณะที่ท่านยอห์น บัปติสต์อยู่กัยสาวกอีกสองคน คนหนึ่งคือนักบุญแอนดรูว์ เมื่อเห็นพระเยซูเจ้าเสด็จมา ท่านยอห์นจึงบอกศิษย์ของท่านว่า "ท่านผู้นี้แหละคือลูกแกะ ของพระเจ้า" และศิษย์ทั้งสองก็ได้ติดตามพระเยซูเจ้าไป นักบุญแอนดรูว์เป็นผู้นำเปโตรมาให้พบพระเยซูเจ้า พระองค์จึงตรัสกับแอนดรูว์และเปโตรว่า " จงตามเรามาเถิด เราจะให้ท่านเป็นชาวประมงจับมนุษย์"
                      นักบุญแอนดรูว์ ได้ไปจาริกประกาศพระศาสนาจักร ยังประเทศกรีก รัสเซีย และโปรแลนด์ ท่านได้สิ้นใจเป็นมรณสักขี โดยการถูกจับตรึงกางเขนไขว้ เป็นรูป X ในภาษาอังกฤษ.




บาร์นาบัส

มี กำเนิดจากเชื้อสายของเลวี เป็นชาวเกาะไซปรัส ชื่อของท่านมีความหมายว่า "ผู้มีหน้าที่ตักเตือน" บาร์นาบัสเป็นผู้แนะนำเปาโลต่อบรรดาอัครสาวก
                 ขณะที่คริสตชนกำลังตั้งกลุ่มกันอยู่ที่อันติโอก บาร์นาบัสในฐานะตัวแทนของศาสนจักรแม่ คือกลุ่มพระวิหารเยรูซาเล็ม ถูกส่งไปเพื่อเป็นกำลังใจแก่บรรดาคริสตชนที่นักบุญเปาโลได้อบรมสั่งสอนอยู่ ที่นั่นตลอดเวลา 1 ปี จากนั้นเปาโลและบาร์นาบัส ก็ได้จาริกไปประกาศพระศาสนจักรในต่างแดน ทั้งสองถูกเนรเทศจากเมืองแห่งหนึ่ง ไปอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นผลดีในงานเผยแพร่พระธรรม ในที่สุดบาร์นาบัส ก็ได้มาระโกเป็นผู้ช่วยอยู่ที่ไซปรัส
                    บาร์นาบัส ได้อุทิศชีวิตด้วยการประกาศพระศาสนา โดยการนำของพระจิตเจ้าและความศรัทธาแรงกล้า ท่านจบชีวิตด้วยการเป็นมารตีร์ที่ไซปรัส ในรัชสมัยกษัตริย์เนโร โดยมีพระวรสารฉบับของนักบุญมัทธิวกอดเอาไว้แนบอก.




นักบุญโทมัส

ชื่อ ของท่านในภาษาอารามัย หมายความว่า "คู่แฝด" และด้วยเหตุนี้เองนักบุญยอห์น จึงเรียกท่านเป็นภาษากรีกว่า "ดิดิม" ท่านเป็นผู้กล้าหาญ เสียสละอย่างยอดเยี่ยม เมื่อครั้งพระเยซูเจ้าทรงตรัสบอกบรรดาอัครสาวกว่า พระองค์ต้องรีบกลับไปเยี่ยมลาซารัส ที่แคว้นยูเดีย พวกสาวกได้ทราบข่าวประชาชนที่นั่นคงเอาหินทุ่มพระเยซูเจ้า   ท่านได้กล่าวว่าเราจะไปด้วยกัน จะร่วมตายกับพระอาจารย์
                      เมื่อครั้งที่พระเยซูเจ้าปรากฎพระองค์แก่พวกสาวก หลังจากที่พระองค์กลับคืนพระชนม์ชีพ พวกสาวกได้กล่าวกับโทมัสว่า "เราได้พบพระเยซูเจ้าแล้ว" แต่ท่านตอบว่า " ข้าพเจ้าไม่เชื่อ จนกว่าจะได้เอานิ้วสอดเข้าไปในบาดแผลตะปู ที่พระหัตถ์และพระสีข้างของพระองค์" หลังจากนั้น 8 วัน ขณะที่โทมัสอยู่กับพวกสาวก พระเยซูเจ้าก็เสด็จมาประทับยืนต่อหน้าท่าน และตรัสแก่โทมัส ให้เอานิ้วสัมผัสที่สีข้างของพระองค์ พลางตรัสว่า "อย่าขาดความเชื่อเลย จงเชื่อเถิด" โทมัสได้ไปจาริกประกาศพระศาสนาในแคว้นต่างๆ สู่เปอร์เซีย และอินเดีย ซึ่งต่อมาท่านได้สิ้นชีวิตเป็นมรณสักขี.




นักบุญบาร์โธโลมิว แห่งเมืองกานา

บุตร ชาวไร่ ท่านยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า "นาธานาแอล" สำหรับชื่อของท่านนั้น "บาร์โธโลมิว" แปลว่า "ลูกของผู้กล้าหาญ" เป็นคนหนึ่งในบรรดาสานุศิษย์รุ่นแรกของพระเยซูเจ้า
                   วันหนึ่ง นักบุญฟิลิป ผู้เป็นเพื่อนของท่าน และศิษย์ของท่านยอห์น บัปติสต์ ได้มาบอกท่านถึงเรื่องพระเยซูเจ้า และคงเป็นคำพูดของพระเยซูเจ้าที่กล่าวว่า "นี่แหละชาวยิวแท้ ไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์เพทุบาย" นาธานาแอลจึงได้แสดงถึงความเชื่อ ที่ร้อนรนหลังจากที่บอกว่า "จากนาซาเร็ธจะมีอะไรดี" ท่านได้กล่าวว่า "พระอาจารย์ ท่านเป็นบุตรของพระเจ้าโดยแท้ ทั้งเป็นกษัตริย์ของชาติอิสราเอลด้วย"
                       นักบุญบาร์โธโลมิว หรือ นาธานาแอล ได้ไปจาริกประกาศพระศาสนจักร ที่ประเทศอาหรับและอินเดีย ท่านได้ถึงแก่กรรมเป็นมรณสักขี ที่ประเทศอามาเนีย ด้วยการถูกจับถลกหนังทั้งเป็น.




นักบุญยอห์น(ผู้นิพนธ์พระวรสาร)

ใน บรรดาสาวกทั้ง 12 องค์ นักบุญยอห์นเป็นผู้ใกล้ชิดและพระเยซูเจ้า ทรงไว้วางพระทัยมากที่สุด ชื่อของนักบุญยอห์น แปลว่า "พรจากพระเจ้า " ท่านเป็นคนหนุ่มที่สุดในบรรดา อัครสาวก 12 องค์ บิดาของท่านคือ เศเบดี เป็นชาวประมงที่ร่ำรวยของเมืองเบธไซดา มารดาชื่อ สะโลเม ในขณะที่พระเยซูเจ้า ทรงรับทรมานและสิ้นพระชนม์ ท่านได้ช่วยปลอบโยนพระแม่ และพระเยซูเจ้าทรงฝากพระมารดาไว้ในความดูแลของท่าน นักบุญยอห์นได้จาริกเผยแพร่พระศาสนาในปาเลสไตน์ ถูกจับขังคุกที่กรุงโรม เมื่อท่านอายุได้ 90 ปี ท่านได้เขียนพระวรสารพิสูจน์ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแท้และเป็นนมุษย์แท้ เนื่องจากท่านสามารถพูดถึงสภาวะของพระเจ้าและของพระเยซูเจ้าได้อย่างถูกต้อง ยอห์นยังเห็นเหตุการณ์ต่างๆ และพระวาจาว่าเป็น "สัญญาลักษณ์" หมายถึงสิ่งเหนือธรรมชาติ โดยเฉพาะศีลล้างบาปและศีลมหาสนิท เขาจึงเปรียบท่านเหมือนนกอินทร์ ที่บินได้สูงกว่านกทั้งปวง
                     ในภาพจะเห็นว่ามีนกอินทรีอยู่ใกล้ๆกับท่าน และมือกำลังถือปากกาเตรียมเขียนข้อความลงในสมุด ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ให้ทราบว่า ท่านเป็นผู้หนึ่งที่เขียนพระวรสาร




นักบุญเปโตร

 เดิม ชื่อ "ซีโมน" เป็นชาวประมงตำบลเบธไซดา แต่ต่อมาได้ย้ายมาตั้งหลักแหล่งที่เมืองคาเปอร์นาอุม นักบุญแอนดรูว์น้องชายของท่านได้เป็นคนแนะนำ ให้มาติดตามพระเยซูเจ้า "ผมพบท่าน ผู้ที่พระเจ้าทรงแต่งตั้งมาเป็นกษัตริย์แล้ว"
                 พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนชื่อท่านใหม่และทรงเรียกว่า "เปรโต" แปลว่า ศิลา ครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสถามท่านว่า "ท่านคิดว่าเราเป็นใคร" และเปรโตได้ทูลว่า "พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า" พระเยซูจึงตรัสว่า "เราจะตั้งท่านเป็นหัวหน้าแทนเรา ทั้งจะมอบกุญแจแห่งอาณาจักรสวรรค์" สัญญาลักษณ์ที่เห็นเด่นชัดในภาพคือ มือของท่านมีลูกกุญแจ
                  นักบุญเปรโต เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของพระศาสนจักร ท่านได้ถูกจับตรึงกางเขน แต่ท่านได้ขอร้องให้เอาศีรษะทิ่มลงหิน โดยกล่าวว่า ท่านไม่สมควรที่จะตายในลักษณะเดียวกับพระเยซูเจ้า.



นักบุญธัดเดอัส หรือ นักบุญ ยูดา

คือ หนึ่งในอัครสาวก 12 องค์ ที่พระเยซูเจ้าทรงเรียก ดังจะพบได้ในพระวรสารนักบุญลูกา และหนังสือกิจการอัครสาวก "ยูดาบุตรยากอบ" แต่มีพระวรสารบางฉบับเรียกท่านว่า "ธัดเดอัส" เช่น พระวรสารนักบุญมัทธิว และมาระโก สำหรับเหตุผลที่ใช้ธัดเดอัสนั้น คงเป็นเพราะนักบุญมัทธิว และมาระโก ระวังเรื่องชื่อที่ซ้ำกันในพระวรสาร นั่นคือยูดาส อิสคาริโอท "ยูดา" คนละคนกันกับยูดาส บุตรคาริโอท
                สำหรับชื่อ ธัดเดอัส มาจากภาษาอารามัย นักบุญธัดเดอัส เป็นหลานชายของแม่พระ และนักบุญโยแซฟ ทั้งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระเยซูเจ้า ท่านเป็นน้องชายของนักบุญยากอบ นักบุญธัดเดอัสได้ไปประกาศเทศนาสั่งสอน ยังประเทศเปอร์เซีย ที่สุดท่านได้จบชีวิตลงด้วยการเป็นมรณสักขี โดยถูกฆ่าตาย ด้วยหอกแบบที่มีขวานติดอยู่ ดังนั้นในภาพมักจะเห็นท่านถือหอก ที่มีขวานติดอยู่ อันเป็นสัญญาลักษณ์มรณสักขีของท่าน.




นักบุญยากอบ(บุตรเศเบดี)


นัก บุญยากอบ ซึ่งเราเรียกว่า "องค์ใหญ่" เป็นบุตรเศเบดี และนางสะโลเม ซึ่งชื่อของนักบุญยากอบนั้นหมายความว่า "ผู้ติดตามพระเจ้า" มาจากภาษาฮีบรู ท่านเป็นพี่ชายของนักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสาร ท่านทั้งสองเป็นผู้ที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกให้มาเป็นสานุศิษย์รุ่นแรกของ พระองค์ และท่านทั้งสองก็มิได้ลังเลใจที่จะติดตาม พระองค์
                  เมื่อท่านยอห์น บัปติสต์ อยู่ที่แม่น้ำจอร์แดนและชี้ไปทางพระเยซูเจ้า เป็นเครื่องหมายบอกแก่ประชาชนเป็นนัยว่านี่คือ "พระเมสสิยาห์" ยากอบติดตามพระเยซูเจ้าไปด้วยความจงรักภักดี และเมื่อครั้งที่พระเยซูตรัสแก่บรรดาอัครสาวกว่า พระองค์จะทำให้ชาวประมงจับมนุษย์ ยากอบก็ทิ้งอวนและติดตามพระองค์ไป พระเยซูเจ้าได้ทรงทำนายว่า ยากอบต้องดื่มกาลิกส์ แห่งยัญบูชาพร้อมกับพระองค์ และเหตุการนั้นก็เป็นจริง
                   ท่านยากอบเป็นสาวกองค์แรก ที่ได้หลั่งโลหิตเพื่อพระคริสตเจ้า โดยถูกตัดศีรษะ เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นราว ค.ศ. 42-43 ในช่วงระหว่างเทศกาลบัสกา





นักบุญฟิลิป

เป็น ลูกศิษย์ของนักบุญยอห์น บัปติสต์ ท่านเป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวก พวกแรกของพระเยซูเจ้า ท่านเป็นชาวเบธไซดา พูดภาษากรีกเช่นเดียวกับอัครสาวกอื่นๆ ชื่อของท่านนักบุญฟิลิปหมายความว่า "ผู้รักม้า" ซึ่งมาจากภาษากรีก เมื่อท่านได้พบพระเยซูเจ้าครั้งแรก ท่านได้ไปบอก นาธานาแอลว่า "เราได้พบพระองค์ผู้ที่โมเสสได้กล่าวไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติ และผู้ที่เผยพระวจนะได้กล่าวถึง คือพระเยซู ชาวนาซาเร็ธ บุตรท่านโยเซฟ"
                         ต่อมาท่านทั้งสองได้สมัครเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า นักบุญฟิลิปได้เดินทางไปจาริกประกาศพระศาสนาจักร ยังประเทศในแถบเอเซียไมเนอร์ และถูกฆ่าตายด้วยการตรึงกางเขนในปี 80.




นักบุญซีโมน

หนึ่ง ในบรรดาอัครสาวกทั้ง 12 องค์ ที่พระเยซูเจ้าทรงเรียก ในพระวรสารนักบุญมัทธิวและมาระโก เรียกท่านว่า "ผู้รักชาติ" เพราะเหตุว่า มีการเรียกสันสนอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับท่าน เพราะผู้อื่นคิดว่าท่านเป็นคนเดียวกับ ท่านนักบุญเปรโต (ซีโมน) แห่งกาลิสี
                        ซีโมน เป็นศัพท์มาจากาภษากรีก การที่เรียกท่านว่า ผู้รักชาติ อาจจะเป็นเพราะว่า ท่านเป็นชาวยิวที่มีความผูกพันกับอุดมการณ์ ของการมีพระเป็นเจ้าปกครอง กับอุดมการณ์พระเมสสิยาห์ อย่างแน่นแฟ้นของพวกฮีบรู และจิตใจของท่านก็ครุ่กรุ่นไปด้วย ความเป็นปฎิปักษ์ต่อต้านพวกโรมัน
                         ท่านได้ร่วมเดินทางไปประกาศศาสนากับนักบุญยูดา จนถึงเปอร์เซีย ที่นั่นท่านได้ประกาศความเชื่อ โดยการยอมถูกฆ่าตายด้วยเลื่อย เพื่อเป็นมรณสักขี ดังนั้นสัญญาลักษณ์ที่คู่กับท่าน คือเลื่อยและพระคำภีร์




นักบุญเปาโล

นัก บุญเปาโล เดิมชื่อ "เซาโล" ภาษาฮีบรูแปลว่า "ที่ปรารถนา" ท่านเป็นชาวยิวที่เกลียดพวกคริสตชนอย่างยิ่ง ครั้งหนึ่ง ขณะที่ท่านเดินทางไปเมืองดามัสกัส เพื่อจับคริสตชน พระเป็นเจ้าได้ประจักษ์มาหาท่าน โดยทำให้เกิดแสงสว่างลงมาจากฟ้าล้อมรอบตัวท่าน จนทำให้ท่านตกลงมาจากหลังม้า และก็มีเสียงถามว่า "เซาโล เซาโล ท่านเบียดเบียนเราทำไม " เซาโลจึงถามว่า " พระองค์ต้องการให้ข้าพเจ้าทำสิ่งใด" เสียงนั้นก็ว่า "จงเข้าไปในเมืองแล้วจะรู้เองว่าต้องทำอะไร" แต่เนื่องจากตอนนั้นตาของท่านบอด จึงต้องมีคนนำท่านเข้าไปในเมือง สามวันให้หลัง ท่านได้พบกับชายคนหนึ่งชื่อ อานาเนีย ซึ่งบอกกับท่านว่า พระเป็นเจ้าได้ส่งเขามาเพื่อพบท่าน หลังจากนั้นท่านก็ได้มองเห็นอีกครั้ง พร้อมทั้งพระหรรษทานจากพระจิตเจ้า ท่านได้กลับใจและรับศีลล้างบาป ทั้งเปลี่ยชื่อใหม่ เป็น "เปาโล"
                   ท่านเป็นผู้มีจิตใจร้อนรน ทั้งจาริกประกาศพระศาสนาไปทั่วแคว้นต่างๆ รวมทั้งเขียนจดหมายถึงคริสตชนเป็นจำนวนมากที่สุด ท่านจึงถูกจำคุกและถูกตัดศีรษะ เป็นมรณ
ที่มา http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3231.0
Last Updated on Sunday, 12 July 2009 22:38
tags : สาวก  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น