คริสเตียนไม่เคยเห็นพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์หรือสสาร เราไม่สามารถ ที่จะทดลองดูว่า พระเจ้ามีหรือไม่มี ด้วยการสัมผัส เพราะพระองค์ไม่ใช่วัตถุ การเห็นหรือไม่เห็น ไม่ใช่การพิสูจน์ว่ามีหรือไม่มี มีคนตา-บอดมากมาย ที่ไม่เคยมองเห็นพ่อแม่ของตน แต่เขาเชื่อว่าเขามีพ่อแม่ และอีกหลายๆ สิ่ง มีการมองเห็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ เช่น แสง ระยะทาง ขนาด และการเคลื่อนไหว การที่เรามองไม่เห็นเชื้อโรค การที่เราไม่เห็นลูกปืน ที่วิ่งจากกระบอกปืน การที่เรามองไม่เห็น ดวงดาวบางดวง และการที่เรามองไม่เห็น บางสิ่งในความมืด นี่มิได้หมาย ความว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มี นี่เป็นแต่เพียง แสดงให้เห็นว่า ตามนุษย์มีขีดจำกัด แต่สิ่งเหล่านั้นมี และพระเจ้าก็มีด้วยทั้งๆ ที่เรามองไม่เห็น
- สิ่งมีชีวิตต้องมาจากสิ่งมีชีวิตเสมอไป มนุษย์ ต้องมาจากมนุษย์ด้วยกัน มนุษย์จะมาจากสิ่งไม่มีชีวิตไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น กลับไปเรื่อยๆ จนถึงมนุษย์คู่แรกในโลก ซึ่งต้องมีมนุษย์คู่แรกมาจากไหน? มาจากสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือ? ความเชื่อที่ว่าสิ่งมีชีวิตมาจากสิ่งไม่มีชีวิต ขัดต่อหลักวิทยาศาสตร์ ที่เรียกว่า กฎไบโอเจเนซิส ซึ่งว่าสิ่งมีชีวิต ต้องมาจากสิ่งมีชีวิตเสมอไป ประโยคไหนมีเหตุผล กว่ากัน สิ่งมีชีวิตมาจากสิ่งมีชีวิต หรือสิ่งมีชีวิตมาจากสิ่ง ไม่มีชีวิต อันไหนงมงายและใช้ ความเชื่ออย่างขาดเหตุผล
- ทุกสิ่งต้องมีผู้สร้าง ถ้า หากเราจะเปรียบเทียบหัวใจกับเครื่องสูบน้ำ ตากับกล้องถ่ายรูป เครื่องดนตรีกับหลอดเสียง เราจะพบว่าเครื่องสูบน้ำ กล้องถ่ายรูป และเครื่องดนตรี ก็ด้อยคุณภาพยิ่งกว่าหัวใจ ตาและหลอดเสียง ถ้าหากเราไม่เชื่อว่า เครื่องสูบน้ำ กล้องถ่ายรูป และเครื่องดนตรี ซึ่งด้อยกว่าเกิดขึ้นเองโดยไม่มีผู้สร้าง สิ่งที่ดีกว่าเหล่านี้เกิดขึ้นเองโดยไม่มีผู้สร้างหรือ?
พระเจ้าของคริสเตียน
พระเจ้าผู้เที่ยงแท้ ไม่ใช่เป็นธรรมชาติ เพราะว่าธรรมชาติ เป็นแต่เพียงกฎ พระเจ้าคือผู้ที่ วางกฎธรรมชาติ ธรรมชาติเพียงแต่บอกเราว่า อะไรเกิดขึ้น ถ้าหากเราทำอย่างนี้ หรืออย่างนั้น สิ่งที่เราโยนขึ้นไป ต้องตกลงมา นี่เป็นกฎธรรมชาติ เพราะแรงดึงดูดของโลก แต่ธรรมชาติ ไม่ได้บอกว่า ใครโยนขึ้นไป ดังนั้นธรรมชาติไม่ใช่ พระเจ้าในศาสนาคริสต์ พระเจ้าคือผู้ที่วางกฎ ว่าอะไรที่ขึ้นไป ต้องตกลงมา กฎธรรมชาติมาจากพระเจ้า และผู้สร้าง ไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา
ความเชื่อในพระเจ้าของคริสเตียน
ยอห์น 20:29 ผู้ที่ไม่เห็นเรา แต่เชื่อก็เป็นสุข เยเรมีย์ 29:13-14 เจ้าจะแสวงหาเราและพบเรา เมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสิ้นสุดใจของเจ้า กิจการของอัครทูต 17:27 เพื่อเขาจะได้แสวงหาพระเจ้า และมุ่งหวังจะคลำหาให้พบพระองค์ ที่จริงพระองค์มิทรงอยู่ห่างไกลจากเราทุกคนเลย |
เราไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่ามีพระเจ้า แต่เราสัมผัสถึงพระองค์ได้ เมื่อเราได้สัมผัสพระองค์แล้ว แม้จะเป็นเพียง ครั้งเดียวในชีวิต เราจะไม่สงสัยอีกต่อไปว่ามีพระเจ้า
ฮีบรู 11:6 แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า ก็ไม่ได้เลย เพราะว่า ผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็น ผู้ประทานบำเหน็จ ให้แก่ทุกคนที่แสวงหาพระองค์ ยากอบ 2:19 ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียวหรือ นั่นก็ดีอยู่แล้ว |
เราเป็นซึ่งเราเป็น
ตอนที่พระเจ้าทรงเรียกโมเสส ให้นำชนชาติอิสราเอล ออกจากการเป็นทาส ในประเทศอียิปต์นั้น โมเสสได้ถาม พระเจ้าว่า พระองค์คือใคร พระองค์ตรัสแก่โมเสสจากพุ่มไม้ไฟ ซึ่งมีการบันทึกไว้ใน ภาษาฮีบรู ซึ่งเป็นภาษาของ พระคัมภีร์เดิม ภาษาฮีบรูนี้มีเพียงพยัญชนะ แต่ไม่มีสระ
คำตอบของพระเจ้า รวมกันแล้วเป็นพยัญชนะ 4 ตัว คือ Y H W H ทุกคนรู้ว่า การมีพยัญชนะ เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีสระมา ประกอบ จะอ่านออกเป็นสำเนียง ภาษามนุษย์ ได้อย่างไรกัน?
อพยพ 3:14 เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น...ไป บอกชนชาติอิสราเอลว่า พระองค์ผู้ทรงพระนามว่า 'เราเป็น' ทรงใช้ข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย... พระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่าน... ทรงใช้ให้ ข้าพเจ้ามาหาท่าน นี่แหละ เป็นนามของเราตลอดไปเป็นนิตย์ นี่แหละ เป็นอนุสรณ์ของเรา ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์ |
ต่อมานักวิชาการ ได้สร้างสระขึ้น เพื่อให้ง่ายในการอ่านพระคัมภีร์ ภาษาฮีบรู ก็ได้เอาสระ a และสระ e ไปแทรก ก็เลยได้เป็นศัพท์ใหม่ว่า Yahweh ออกเสียงยาห์เวห์ คัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม มีพระนามยาห์เวห์ ปรากฎอยู่ถึง 6 พันครั้ง
ใครที่ได้อ่านพระคัมภีร์จนจบ ก็คงจะทราบได้ว่า ยาห์เวห์นั้นคือ พระเป็นเจ้า ผู้ซึ่ง
- ทรงพระชนม์อยู่
- ทรงเป็นผู้กระทำ
- ทรงเป็นเหตุให้เป็นไปตามแผนการของพระองค์
- Y H W H
- Adonai อโดนาย
- Jehovah เยโฮวาห์
- Yahweh ยาเวห์
- Lord, องค์พระเป็นเจ้า
พระลักษณะของพระเจ้า
ยอห์น 4:24 "พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่มานมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง" พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ คือ พระองค์มิได้มีสภาพเป็นเนื้อหนัง เหมือนกับมนุษย์เรา |
อพยพ 33:20 ‘เจ้าจะเห็นหน้าของเราไม่ได้ เพราะมนุษย์เห็นหน้าเราแล้ว จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้’ |
มนุษย์ ที่อยู่ในสภาพบาป จะทนไม่ได้ที่จะมองดูความบริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ของพระเจ้า แม้แต่ดวงอาทิตย์ เรายังมองดูไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง พระผู้ทรงสร้างดวงอาทิตย์เลย
ปฐมกาล 1:1 ในปฐมกาล พระเจ้าทรงเนรมิตสร้าง ฟ้าและแผ่นดิน โรม 1:19-20 เหตุว่าเท่าที่จะรู้จักพระเจ้าได้ก็แจ้งอยู่กับใจเขาทั้งหลาย เพราะว่าพระเจ้า ได้ทรงโปรดสำแดงแก่เขาแล้ว ตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาแล้ว สภาพที่ไม่ปรากฏของพระเจ้านั้น คือฤทธานุภาพอันถาวร และเทวสภาพของพระองค์ ก็ได้ปรากฏชัดในสรรพสิ่ง ที่พระองค์ ได้ทรงสร้าง ฉะนั้นเขาทั้งหลาย จึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย อิสยาห์ 46:9-10 จงจำสิ่งล่วงแล้วในสมัยก่อนไว้ เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีอื่นใดอีก เราเป็นพระเจ้า และไม่มีอื่นใดเหมือนเรา ผู้แจ้งตอนจบให้ทราบ ตั้งแต่เริ่มต้น และแจ้งถึงสิ่ง ที่ยังไม่ได้ทำเลย ให้ทราบตั้งแต่กาลโบราณ |
ดาเนียล 2:28 แต่มีพระเจ้าองค์หนึ่งในฟ้าสวรรค์ผู้ทรงเผย ความลึกลับทั้งหลาย สดุดี 10:4 เพราะความทะนงตัว ... ความคิดทั้งสิ้นของเขาคือ ไม่มีพระเจ้า สดุดี 14:1 คนโง่รำพึงอยู่ในใจของตนว่า ไม่มีพระเจ้า |
ในปัจจุบัน มีการยอมรับกันบ่อยครั้งว่า การปฏิเสธว่ามีพระเจ้า เป็นสัญลักษณ์ ของผู้ที่มีวัฒนธรรม สูงส่ง แต่ ในแง่หลักฐานของพระปัญญาล้ำเลิศแล้ว พระคัมภีร์จัดว่า ความเชื่อเรื่องไม่มีพระเจ้าไร้สาระ
ถ้ามนุษย์สามารถเข้าใจและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพระเจ้า ผู้นั้นเป็นพระเจ้าไม่ได้ ผู้ที่จะเป็นพระเจ้าได้ ต้องเป็นผู้ที่ อยู่เหนือกว่าสติปัญญา และเกินกว่าความคิดมนุษย์ พระหรือเจ้าที่มนุษย์ สร้างขึ้นมา ตามจินตนาการ และความเชื่อของเขา จึงเป็นพระเจ้าไม่ได้ ถ้ามนุษย์สร้างพระด้วยมือ และจินตนาการ ด้วยความคิด พระและเจ้านั้น ด้อยยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก เพราะการเป็นอยู่ของพระและเจ้านั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของมนุษย์ ที่จะคิดและทำขึ้น พระเจ้าที่แท้จริง คือ ผู้ที่อยู่เหนือมนุษย์ ไม่ใช่อยู่ใต้มนุษย์ พระองค์เป็นเจ้าชีวิตของมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์ เป็นเจ้าชีวิต เหนือพระองค์ พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ แต่ไม่ใช่มนุษย์สร้างพระองค์ นี่แหละคือพระเจ้า
tags : พระเจ้ามีจริงหรือ,พระเจ้า,เชื่อ